- Gclubthnarok

Gclubth เว็บไซต์พนันออนไลน์การันตี อันดับ1 ของคนเล่น

Breaking

Post Top Ad

Post Top Ad

Responsive image

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ประเทศกูมีเหยื่อเอดส์ หน้าใหม่วันละ16ราย






Gclubthnarok เมื่อ 3 ปีก่อน หรือ พ.ศ.2558 UNAIDS แจ้งว่า ในขณะนั้นยังมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีสะสมทั่วโลกอยู่ถึง 36.7 ล้านคน โดยในจำนวนนี้มีผู้ติดเชื้อฯที่อาการขยับไปถึงขั้นเป็นโรคเอดส์และเสียชีวิตไปแล้ว มีจำนวนทั้งสิ้น 1.1 ล้านคน เป็นที่น่าสังเกตในบรรดาผู้ติดเชื้อฯสะสมทั่วโลก 36.7 ล้านคน เป็นผู้ติดเชื้อฯรายใหม่มากถึง 2.1 ล้านคน หรือเทียบเท่าทุก 1 ชั่วโมง ยังคงมีผู้ติดเชื้อฯรายใหม่เพิ่มขึ้นทั่วโลกชั่วโมงละ 1 คน
ส่วนช่องทางการติดเชื้อเอชไอวีจากบรรดาเหยื่อเอดส์หน้าใหม่ ยังคงมาจาก การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย อันดับหนึ่ง รองลงมา ติดจากหญิงที่ขายบริการทางเพศ ซึ่งไม่ป้องกันโดยการสวมถุงยางอนามัย และ การใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น ตามลำดับ
ถึงกระนั้นองค์การสหประชาชาติยังคงตั้งความหวังและมีนโยบาย จะยุติการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ให้ได้ภายในอีก 12 ปีข้างหน้า หรือใน ปี 2573
สำหรับสังคมไทย เฉลิมพล พลมุข รองประธานมูลนิธิธรรมรักษ์ (วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี) ช่วยอัปเดตสถานการณ์ให้ว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้แจ้งไว้ในรายงานประจำปี 2560 ว่า ผู้ที่ทราบว่าตนเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีและยังมีชีวิตอยู่มีจำนวนทั้งสิ้น 67,087 ราย
ในจำนวนนี้เข้าสู่กระบวนการ รับยาต้านไวรัส เพียงแค่ 37,627 ราย ส่วนที่เหลือเป็นตายร้ายดีอย่างไร ไม่สามารถจะติดตามได้อีกจำนวน 29,460 ราย
ตัวเลขชุดหลังจำนวนเกือบ 3 หมื่นรายนี่แหละ...ที่สร้างความหนาวไส้ สั่นสะพรึงให้แก่สังคมไทยอยู่ไม่น้อย!!!
อ.เฉลิมพลยังรายงานถึงสถานการณ์ของผู้ติดเชื้อเอชไอวีบางส่วนในกรุงเทพมหานครด้วยว่า มีคนไทยที่ติดเชื้อฯไปขอรับยาต้านไวรัสจำนวน 166 ราย แรงงานข้ามชาติ/คนไทยที่ไร้สิทธิอีก 154 ราย
นอกจากนี้ยังมีผู้ไปขอรับบริการจากบริการป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อฯ (Pre-Exposure Prophylaxis : PrEp) และหลังจากได้รับเชื้อเอชไอวี ที่ไม่ใช่จากการทำงาน (HIV non-occupational Post-Exposure Prophylaxis : HIV nPEP) ทั้งสิ้นอีก 133 ราย
เขาบอกว่า พฤติกรรมความเสี่ยงในการรับเชื้อเอชไอวีทั้งในสังคมไทยและทั่วโลก หลักๆยังคงมีพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกับในอดีตเมื่อหลายปีก่อน
กล่าวคือ ทั้งจากการมีเพศสัมพันธ์โดย ไม่สวมถุงยางอนามัย การใช้ยาเสพติดแบบฉีดเข้าเส้น รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันในกลุ่มคน ที่เรียกตัวเองว่า LGBTQ ซึ่งย่อมาจาก เลสเบี้ยน lesbian เกย์ gay ไบเซ็กชวล bisexual คนข้ามเพศ transgender หรือ transsexual และ เควียร์ queer หรือกลุ่มคนที่นิยมในเรื่องเพศที่ไม่มีกรอบและประเพณีวัฒนธรรม
แต่ก็ยังมีรูปแบบใหม่ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในบ้านเรา มีทั้งติดเอดส์มาจาก การซื้อขายน้ำนมของมารดาที่เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี เพื่อนำไปป้อนให้แก่ทารกของมารดาปกติที่ไม่มีน้ำนม การจับกลุ่มมีเพศสัมพันธ์กันแบบสวิงกิ้ง และ การประกาศขายบริการทางเพศจากหญิงตั้งครรภ์ใกล้คลอด เพื่อสนองตัณหาให้แก่พวกที่ชอบมีเซ็กซ์แบบวิตถาร...
ซึ่งสิ่งเหล่านี้กำลังเป็นภัยเงียบอีกมิติที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ในเมืองไทย ขยายวงกว้างออกไปอย่างน่าสะพรึง ไม่น้อยไปกว่าการติดเชื้อฯรูปแบบเดิมๆ
“แม้รัฐบาลชุดนี้ ได้มีการออก พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 เพื่อหวังให้ผู้เป็นแม่วัยรุ่นได้รับสิทธิบางอย่าง เช่น สถานศึกษาใดที่มีแม่วัยรุ่น ซึ่งอยู่ในวัยเรียนตั้งท้อง แม่วัยรุ่นผู้นั้นสามารถศึกษาเล่าเรียนให้จบการศึกษาได้ แต่ในความเป็นจริง ผมอยากให้ลองไปติดตามดูว่าผู้ที่อุ้มท้องจนกระทั่งคลอดบุตร สามารถไปเรียนได้จริงหรือไม่”
“ตามคาดการณ์จะมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยวันละ 16 คน หมายความว่า ในหนึ่งปีจะมีผู้ติดเชื้อฯรายใหม่เพิ่มขึ้นอีกราวๆ 5,760 คน แต่สิ่งที่รัฐบาล คสช.ทำอยู่ก็คือ จัดสรรงบประมาณ 3,046.31 ล้านบาท ให้กระทรวงสาธารณสุข ผ่านคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) นำไปบริหารจัดการในภาพรวม ซึ่งเป็นอีก สถานการณ์ที่น่าติดตามว่าจะรับมือไหวหรือไม่”
เฉลิมพลบอกว่า วัดพระบาทน้ำพุในฐานะองค์กรการกุศลหนึ่งของชาวพุทธ ได้ทำหน้าที่ให้การดูแลรักษาผู้ติดเชื้อฯ และผู้ป่วยเอดส์มาอย่างต่อเนื่องถึง 26 ปี แล้ว
แม้รูปแบบการสนับสนุนในเรื่องต่างๆจากภาครัฐจะไม่เหมือนเช่นแต่ก่อน แต่จำนวนผู้ติดเชื้อฯและผู้ป่วยเอดส์ที่บากหน้ามาขอเข้ารับบริการจากทางวัดฯยังคงไหลบ่ามาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
นอกจากทางวัดต้องให้การดูแลคนเหล่านี้ ยังมีเรือพ่วงที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเอดส์ตามมาด้วย เช่น ญาติของผู้ป่วยเอดส์ ที่แก่ชราหรือเจ็บป่วยไร้คนดูแล และเด็กกำพร้า จากพ่อแม่ที่ป่วยเป็นเอดส์ตาย เป็นต้น
“ทุกวันนี้อดีตเด็กกำพร้าทารกจำนวนมาก ที่เคยเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีจากมารดา เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน บัดนี้เขาเหล่านั้นได้เติบโตเป็นหนุ่มสาว บางคนกำลังศึกษาอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย บางคนก็ไปทำงานในบริษัท การดูแลสุขภาพตนเองให้ยืนยาวต่อไป จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสไปตลอดชีวิต
แต่ในความเป็นจริงยังไม่มีใครหรือองค์กรใดไปติดตามชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาเหล่านี้อย่างใกล้ชิด จึงเกิดเป็นคำถามตามมาว่า หากคนกลุ่มนี้ไปมีพฤติกรรมทางเพศ ที่อาจจะเพิ่มความสุ่มเสี่ยง ให้กับคนปกติธรรมดา จนต้องกลายเป็นผู้ติดเชื้อฯรายใหม่ด้วยล่ะ จะน่าเป็นห่วงแค่ไหน”
เฉลิมพลบอกว่า ท้ายที่สุดแล้ว หากหลายฝ่าย เช่น องค์กรเอกชนที่เคยดูแลปัญหาโรคเอดส์ต้องทยอยล้มหายตายจาก แถมรัฐบาลยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญ หรือเบือนหน้าหนีจากภาระรับผิดชอบโรคเอดส์ในเมืองไทยอีก อนาคตปัญหาเอดส์ในสังคมไทยจะน่าเป็นห่วงแค่ไหน
“ที่สุดแล้ว ภาระหนักอึ้งก็ต้องมาตกอยู่ที่หลวงพ่อท่านเจ้าคุณอลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งบางคนอาจมองว่าไม่ใช่หน้าที่ของท่าน แต่ท่านถือว่าทุกข์ทั้งหลายของสัตว์โลกพระสงฆ์พึงมีหน้าที่บำบัด ท่านจึงต้องให้การสงเคราะห์เท่าที่พอจะมีกำลังทำได้ต่อไป”

ขอขอบคุณภาพและข้อมูล จาก thairath.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad