วช.เผยควันธูปมีสารก่อมะเร็งให้ลดพฤติกรรมใช้ - Gclubthnarok

Gclubth เว็บไซต์พนันออนไลน์การันตี อันดับ1 ของคนเล่น

Breaking

Post Top Ad

Post Top Ad

Responsive image

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2562

วช.เผยควันธูปมีสารก่อมะเร็งให้ลดพฤติกรรมใช้

ดร.ขวัญฤดี โชติชนาทวรวงศ์ ผอ.ศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์สิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เปิดเผยว่า วช.ร่วมกับคณะกรรมาธิการการทรัพยากรธรรมชาติฯ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จัดเสวนา “ธูป...ทำบุญ...ผลต่อสุขภาพ... มะเร็ง???” 



Gclubthnarok  โดยจากงานวิจัย “สารก่อมะเร็ง : ภัยเงียบที่มากับควันธูป” ของ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และ ดร.พนิดา นวสัมฤทธิ์ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ พบว่า ควันธูปมีสารก่อมะเร็ง 3 ชนิด ได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน เพราะธูปเป็นเครื่องหอมที่ทำจากขี้เลื่อย กาว น้ำมันหอมสกัดจากพืช ไม้หอม ใบไม้ เปลือกไม้ รากไม้ เมล็ดพืช เรซิน และสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอมก็จะพอกอยู่บนก้านไม้ ธูปมีหลายรูปหลายขนาดตั้งแต่เล็กถึงใหญ่มากๆ เผาไหม้หมดในเวลา 20 นาที-3 วัน 3 คืน ซึ่งในประเทศไทย ในการบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บางคนต้องจุดธูปถึง 9 ดอก 

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่ามีคนจุดธูปทั่วโลกปีหนึ่งๆ เป็นหมื่นถึงแสนตัน และทุกๆ 1 ตันของธูปจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 325.1 กิโลกรัม และก๊าซมีเทน 7.2 กิโลกรัม หากปีหนึ่งมีคนจุดธูปเป็นหมื่นถึงแสนตัน จะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และมีเทนออกมาจำนวนมหาศาล ไม่เพียงแต่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพคนเท่านั้น ยังมีผลต่อมลภาวะสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศอีกด้วย นอกจากนี้ ในกระบวนการผลิตธูปปัจจุบันยังมีการนำวัสดุบางประเภทมาใช้ในการผลิต เช่น เศษเฟอร์นิเจอร์เก่าๆ ซึ่งมีสารที่มีองค์ประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายด้วย

ผอ.ศูนย์วิจัยฯกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ วช.จะนำไปสู่ข้อสรุปการจัดการใน 3 ประเด็นหลักคือ การใช้ธูปควรมีแนวทางดำเนินการในสังคมไทยอย่างไร การออกแบบธูปที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อสุขภาพในการใช้งานและการลดพฤติกรรมการใช้ธูปในระยะยาว.




ขอขอบคุณภาพและข้อมูล จาก thairath.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad